หากพูดถึงการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย สามารถช่วยเผาผลาญไขมันและกระชับสัดส่วนได้ไว รวมถึงมีผลกระทบต่อร่างกายน้อย และสามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลายในระหว่างการออกกำลังกายได้มากที่สุด แน่นอนว่าการปั่นจักรยานคงถูกยกให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจของใครหลาย ๆ คนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในตอนนี้ การจะออกจากบ้านไปปั่นจักรยานในสวนสาธารณะ หรือตามสถานที่ต่าง ๆ นั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการทำให้เราต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นได้

 

  ส่งผลให้ในช่วงนี้ นักปั่นหลาย ๆ คนจึงเกิดปิ๊งไอเดียใหม่สุดแหวกแนวที่จะช่วยแก้ไขข้อจำกัดของการปั่นจักรยาน ที่ถือได้ว่าเป็นการออกกำลังกายที่ต้องทำนอกบ้านแต่เพียงอย่างเดียวนั้น ให้กลายมาเป็นการออกกำลังกายที่สามารถเกิดขึ้นได้ในบ้านหรือห้องพักของเราในรูปแบบของ Home Wellness ผ่านการนำเอาจักรยานมาปั่นบนลู่วิ่งไฟฟ้า ! สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นยังไง? สามารถทำได้จริงไหม? และจะให้ผลลัพธ์อย่างไรกับร่างกายของเรายังไงบ้าง? ลองมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลย

ปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าทำได้จริงมั้ย?

  ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนที่ได้ฟังเกี่ยวกับไอเดียในการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นครั้งแรกจะเกิดความรู้ที่ว่า การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้านั้นเป็นเรื่องที่แปลก บ้า และไม่น่าจะเป็นไปได้จริง แต่เราต้องขอยืนยันตรงนี้เลยว่า การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้านั้นเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้จริง และในตอนนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมาให้ความสนใจกับการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้กันมากขึ้น เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานนั้น ถือเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายในดวงใจของใครหลาย ๆ คนที่ไม่เพียงแต่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีในด้านของการเผาผลาญไขมัน และการกระชับสัดส่วนให้ฟิตและเฟิร์มขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้นแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การปั่นจักรยานต่อเนื่องเป็นประจำยังส่งผลดีต่อสุขภาพของหัวใจ หลอดเลือด และปอด รวมไปถึงยังเป็นการช่วยเสริมสร้างให้กล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณต้นขามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 

  ซึ่งหากกล่าวมาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนก็อาจจะมองว่า ถ้าหากต้องการที่จะออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานในสถานการณ์ที่ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้ตามต้องการจริง ๆ นั้น ทำไมเราถึงไม่เลือกที่จะปั่นจักรยานด้วยจักรยานออกกำลังกายไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้ง่าย และถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานในบ้านอย่างแท้จริงกันล่ะ? ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคำตอบในข้อนี้ หนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจที่จะหันมาออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าแทนการใช้จักรยานออกกำลังกายไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ นั้น คือ เรื่องของความรู้สึกและสัมผัสที่เกิดขึ้นในระหว่างการปั่นจักรยาน ที่การปั่นจักรยานออกกำลังกายไฟฟ้าไม่สามารถทดแทนได้ จนทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจที่จะลองลงมือทำอะไรที่ดูจะเป็นไปไม่ได้อย่างการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า ให้กลายมาเป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้นั่นเอง

อยากลองปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

  สำหรับใครที่กำลังอยากจะลองออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าดูบ้างนั้น เราอยากให้ทุกคนคิดภาพตามดูก่อนว่า การออกกำลังด้วยการปั่นจักรยานบนลู่วิ่งไฟฟ้านั้น คือ การปั่นจักรยานบนเส้นทางที่มีเคลื่อนที่ถอยไปข้างหลังอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วหากเราต้องการที่จะทำให้จักรยานของเราสามารถทรงตัวอยู่บนลู่วิ่งไฟฟ้าได้อย่างมั่นคง เราก็จำเป็นที่จะต้องปั่นจักรยานด้วยความเร็วที่เทียบเท่ากันกับความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะถ้าหากเราปั่นจักรยานด้วยความเร็วที่มากหรือน้อยไปกว่านั้น ก็อาจจะทำให้เราไม่สามารถทรงตัวและควบคุมทิศทางของจักรยานบนลู่วิ่งไฟฟ้า จนอาจนำไปสู่การล้มหรือการกระแทกที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้

 
  • ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับนักปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้ามือใหม่ การจะควบคุมความเร็วในการปั่นจักรยานให้เท่ากันกับความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้านั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยากและต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนที่ค่อนข้างนาน เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับใครที่กำลังอยากจะลองปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าดูในตอนนี้ แล้วล่ะก็ นอกเหนือไปจากการที่เราจะต้องมีจักรยานที่สามารถวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าได้อย่างพอดีแล้วนั้น เราก็จำเป็นจะต้องทำการจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เอาไว้เพื่อการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเอง ดังนี้

  • ราวสำหรับจับ ราวสำหรับจับจะช่วยให้เรามีหลักสำหรับใช้ในการทรงตัวในกรณีที่เราไม่สามารถควบคุมทิศทางของจักรยานได้ โดยการติดตั้งราวกันจับที่ดีนั้นควรติดตั้งในทิศทางที่ขนานไปกับตัวลู่วิ่งไฟฟ้า และควรติดตั้งในฝั่งเดียวกันกับมือข้างที่เราถนัด รวมถึงควรมีการเว้นระยะห่างให้เราสามารถเอื้อมจับได้อย่างพอดี เพื่อความปลอดภัยในการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า

  • เชือก หรือแท่น สำหรับใช้ในการยึดล้อจักรยาน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า สำหรับมือใหม่หัดปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้านั้น การจะควบคุมความเร็วในการปั่นจักรยานให้เท่ากันกับความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะฉะนั้นแล้วการมีตัวช่วยสำคัญอย่าง เชือก หรือแท่น สำหรับใช้ในการยึดล้อจักรยานเอาไว้กับตัวลู่วิ่งไฟฟ้า จะช่วยให้เราสามารถทรงตัวและควบคุมทิศทางของจักรยานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าได้อีกด้วย

  • หมวกกันน็อก สนับเข่า สนับศอก เช่นเดียวกันกับการปั่นจักรยานในสวนสาธารณะทั่วไป การสวมใส่หมวกกันน็อก สนับเข่า และสนับศอก จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า และช่วยป้องกันไม่ให้ศีรษะและอวัยวะอื่น ๆ ภายในร่างกายของเราได้รับแรงกระแทกโดยตรงในกรณีที่จักรยานเสียหลักล้มลง ซึ่งจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรงได้

ข้อดีของการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า

  1. การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณต้นขาหน้าและหลัง กล้ามเนื้อบริเวณเอว
    และกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกมีความแข็งแรงและกระชับมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดจากการนั่งผิดท่า หรือการเอี้ยวตัวหยิบของแบบผิดท่าได้
  2. การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าในระหว่างที่อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) มีความเร็วมาก
    ขึ้นจนอยู่ที่ประมาณ 50-75% (หรือมากกว่า) ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด จะสามารถช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และช่วยให้ร่างกายมีความเฟิร์มและกระชับมากยิ่งขึ้น
  3. การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งจะช่วยให้
    หัวใจของเราแข็งแรง และสามารถสูบฉีดเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้น
  4. การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น จากการที่ต้องพยายามทรงตัว และ
    ควบคุมระดับความเร็วของการปั่นจักรยานให้อยู่ในระดับที่เท่ากับความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าในตลอดระยะเวลาที่ได้ออกกำลังกาย

เคล็ด (ไม่) ลับการปั่นจักรยานกระชับสัดส่วนด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า

  • การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าแบบ HIIT
    สามารถทำได้โดยการปั่นจักรยานอยู่กับที่ด้วย ความเร็วสูงสุดเป็นระยะเวลา 30 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนแรงในการปั่นลง แล้วปั่นจักรยานต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2-4 นาที ก่อนจะทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบ 15-30 นาที ซึ่งการออกกำลังกายแบบหนัก ๆ สลับกับการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้ จะช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกิน รวมถึงช่วยให้กล้ามเนื้อมีความกระชับและแข็งมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อสัดส่วนรูปร่างที่ดูเฟิร์มและดูลีนมากยิ่งขึ้น
  • การปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าแบบ Cardio สามารถทำได้โดยการปั่นจักรยานอยู่กับที่ไป เรื่อย ๆ ประมาณ 5 นาที ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มแรงในการปั่นจักรยานให้อยู่ในระดับความเร็วสูงสุดประมาณ 10-25 วินาที แล้วค่อย ๆ ผ่อนแรงในการปั่นลงมาเพื่อปั่นจักรยานต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1-2 นาที ก่อนจะทำการปั่นจักรยานด้วยความเร็วแบบเดิมซ้ำไปเรื่อย ๆ จนครบ 10-15 นาที โดยการปั่นจักรยานด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าแบบ Cardio นี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญแคลอรีส่วนเกิน และช่วยให้เรามีรูปร่างที่เฟิร์มกระชับและดูดีมากยิ่งขึ้น

  สำหรับใครที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับการนำมาใช้ออกกำลังกายร่วมกับจักรยาน ทาง Fitwhey เรามีลู่วิ่งไฟฟ้า BAAM HOME TREADMILL ลู่วิ่งไฟฟ้าเหมาะสำหรับใช้ภายในบ้าน ลู่วิ่งโคตรถึก ใช้วิ่งได้ทั้งครอบครัว คุณภาพสูง ให้คุณได้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ


สนใจลู่วิ่งไฟฟ้า ติดต่อเรา
Facebook Inbox:https://www.facebook.com/fitwhey
LINE : @FITWHEY
Email: contactus@fitwhey.com