กินดีย์ๆ คือกินอย่างไร

การดูแลโภชนาการ การใช้อาหารเสริมและวิตามินรวม ช่วยเสริมให้หุ่นของคุณดูเป็นหุ่นสุขภาพดี กระชับเข้ารูปทุกสัดส่วน

ปีใหม่นี้มีใครตั้งเป้าหมายในการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตัวเองบ้าง หวังว่าเป้าหมายนี้ทุกคนจะเคร่งครัดและจริงจังกับมันมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา ก่อนอื่นต้องถามทุกคนอีกครั้งว่ารู้จักคำว่า กินดีย์หรือไม่

กินดีย์ คือ การกินสิ่งที่ดีมีประโยชน์ และเพิ่มเติมด้วยสารอาหารเสริมที่ถูกต้องตามร่างกายต้องการ วันนี้ฟิตเวย์ได้รวบรวมข้อมูลแนวทางการกินดีย์ไว้ให้คุณโดยเฉพาะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นโดย



1.กินอาหารครบ 5 หมู่ ให้หลากหลายและหมั่นเช็กน้ำหนักตัว

เนื่องจากร่างกายเราต้องการสารอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหาร ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน น้ำ และใยอาหาร แล้วแต่ละคนก็ต้องการสารอาหารวิตาที่ต่าง แต่ไม่มีอาหารชนิดใด ชนิดเดียวที่ให้สารอาหารต่างๆครบ ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จึงจำเป็น ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินแต่ละหมู่ให้หลากหลาย จึงจะได้สารอาหารต่างๆครบถ้วน และเพียงพอ


น้ำหนักตัว เป็นเครื่องบ่งชี้บอกถึงสุขภาพของเรา จึงควรหมั่นดูแลโดยใช้ดัชนีมวลกาย(Body Mass Index) ซึ่งคำนวณจากสูตร

ค่าปกติจะอยู่ที่ 18.5-24.9 กก/ตร.ม.
การที่คุณรู้จักดูแลควบคุมน้ำหนักเป็นประจำจะทำให้ คุณรักษาสมดุลของน้ำหนักได้ดีไม่อ้วนจนเกินไป ที่ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ยากจนท้อหมดกำลังใจ


2.การควบคุมคาร์โบไฮเดรต และปริมาณแป้ง

ข้าวเป็นอาหารหลักที่ให้กำลังงาน มีสารอาหารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินกับแร่ธาตุ และใยอาหาร ควรกินข้าวประเภทข้าวกล้องหรือกินสลับกับ อาหารประเภทแป้งอื่นๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง เผือกและมัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายลดการเบื่ออาหาร แถมสารอาหารประเภทแป้ง อย่าง เผือกและมัน ก็ดีต่อระบบย่อยอาหารของคุณเช่นกัน


3.กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ

พืชผักและผลไม้ นอกจากให้วิตามินแร่ธาตุ และกากอาหารแล้ว ยังมีสารอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปเกาะตามหลอดเลือด และช่วยทำให้เยื่อบุของเซลล์ และอวัยวะต่างๆแข็งแรงอีกด้วย ผัก-ผลไม้ ให้สารพฤกษเคมี (phytonutrients or phytochemicals) สำคัญที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้จากการกินผัก หรือ ผลไม้เท่านั้น สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการต้านการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการอักเสบ และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้


4.กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
  • เนื้อสัตว์ทุกชนิดมีโปรตีน แต่ควรกินชนิดไม่ติดมันเพื่อลดการสะสมไขมันในร่างกาย
  • ไข่เป็นอาหารโปรตีนราคาถูก หาซื้อง่าย เด็กสามารถกินได้ทุกวัน แต่ผู้ใหญ่ควรกิน ไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
  • ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์ เป็นโปรตีนที่ดี ราคาถูก ควรกินสลับกับเนื้อสัตว์เป็นประจำ

5.ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย

นมมีโปรตีน วิตามินบี และแคลเซียมซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโต และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน เพราะการที่คุณออกกำลังกายออกแรงในแต่ละครั้ง คุณอาจจะสูญเสียความสึกหรอของร่างกายได้เช่นกัน จึงเป็นอาหารที่เหมาะสมกับบุคคลทุกวัย และสำหรับคนที่ควบคุมอาหารการกินแบบจริงจัง ควรดื่มนมประเภทพร่องมันเนย


6.กินอาหารที่มีแต่ไขมันพอควร

ไขมันให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทั้งช่วยดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี และเค แต่ไม่ควรกินมากเกินไป จะทำให้อ้วน และเกิดโรคอื่นๆตามมา การได้รับไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ และอาหารที่มีโคเลสเตอรอลมากเกินไป จะทำให้โคเลสเตอรอลในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ควรกินอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง อบ จะช่วยลดปริมาณไขมันในอาหารได้


7.หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด

การกินอาหารรสจัดมากจนเป็นนิสัย ให้โทษแก่ร่างกาย รสหวานจัดทำให้ได้พลังงานเพิ่มทำให้อ้วน รสเค็มจัดเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง


8.เสริมด้วยวิตามินหรืออาหารเสริม

เมื่อถึงอาหารเสริมหรือวิตามินบำรุงร่างกายต่าง ๆ หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าแค่ลดน้ำหนักก็ได้สุขภาพดีแล้ว บางครั้งการที่คุณออกกำลังกาย เสียเหงื่อนั้นอาจจะทำให้คุณขาดสารอาหารหรือวิตมินบางอย่างก็เป็นได้ ดังนั้นคุณจะหมั่นเติมวิตามินให้กับร่างกาย พร้อมบำรุงควบคู่ไปกับการออกกำลัง มี 4 วิตามินที่คุณในฐานะ ผู้ควบคุมมวลน้ำหนัก ห้ามขาด คือ


  • วิตามินบี (Vitamin B)

สารอาหารจำเป็นที่แยกย่อยออกไปได้อีกกว่า 13 ชนิด แต่สามารถพบได้ในรูปแบบของวิตามินบีรวม (Vitamin B complex) ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลร่วมด้วยได้ และมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของร่างกาย โดยแต่ละวันร่างกายควรได้รับวิตามินบีแต่ละชนิดไม่เกิน 25-50 มิลลิกรัมต่อวัน

 
  • วิตามินดี (Vitamin D)

หนึ่งในวิตามินที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ผ่านแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า โดยมีหน้าที่หลักในการควบคุมกระบวนการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยชะลอหรือป้องกันโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ โดยในแต่ละวันร่างกายควรได้รับวิตามินดีไม่เกิน 50 ไมโครกรัม

 
  • โพแทสเซียม (Potassium)

มีบทบาทสำคัญต่อปริมาณออกซิเจนที่ถูกนำไปเลี้ยงในสมอง จึงมีผลต่อความสามารถในการจดจำและการเรียนรู้ ช่วยบรรเทาความเครียดหรือความวิตกกังวลให้ลดลงได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสารอาหารไฮไลต์ที่ช่วยเติมความรู้สึกผ่อนคลายให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี ในแต่ละวันร่างกายควรได้รับปริมาณโพแทสเซียมอยู่ที่ 2,000-3,000 มิลลิกรัม

 
  • แมกนีเซียม (Magnesium)

องค์ประกอบสำคัญที่มีอยู่ในโครงสร้างกระดูกทั่วทั้งร่างกาย มีหน้าที่สำคัญต่อการรักษาสมดุลแคลเซียมในกระดูกและในเลือด ทั้งยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญ เปลี่ยนไขมันและคาร์โบไฮเดรตไปเป็นพลังงานจำเป็น หากร่างกายมีปริมาณแมกนีเซียมเพียงพอ จะเป็นผลดีต่อการลดความรู้สึกเหนื่อยล้า หรืออ่อนเพลียที่เกิดจากภาวะเครียดสะสมในชีวิตประจำวัน โดยร่างกายควรได้รับแมกนีเซียมอยู่ที่ปริมาณ 300-800 มิลลิกรัมต่อวัน


9.งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

คงจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ แล้วว่า “ทานเบียร์เยอะทำให้อ้วน” แน่นอนว่า การดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนทำให้การลดน้ำหนักหรือลดไขมันเป็นไปได้ยากขึ้น ดังนั้น Insulin Sensitivity หรือ การตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลิน คือ สภาวะที่ร่างกายเราตอบสนองต่ออิซูลินได้ดี โดยปกติ พอเรากินอะไรเข้าไป เช่น กาแฟเย็น ข้าว หรือขนม ร่างกายเราก็จะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลกลูโคส (Glucose) แล้วตับอ่อนก็จะหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ออกมา เพื่อนำน้ำตาลเหล่านี้ไปใช้เป็นพลังงาน คนที่มี Insulin Sensitivity ที่ดี ร่างกายจะหลั่งอินซูลินมาแค่นิดเดียวน้ำตาลในเลือดก็จะลดลงแล้ว ในขณะที่คนที่น้ำหนักเกินและคนที่เป็นโรคเบาหวานจะตรงกันข้าม หรือที่เรียกว่า Insulin Resistance ซึ่งหมายความว่า ร่างกายเราต้านอินซูลิน หรือตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี น้ำตาลในเลือดจึงมักจะอยู่ในระดับสูง
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ เป็นโทษแก่ร่างกาย ทำให้สมรรถภาพการทำงานลดลง ขาดสติ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย สูญเสียทรัพย์สิน เงินทอง ตลอดจนชีวิต เสี่ยงต่อ ล่าสุดนักวิจัยได้พบว่า การดื่มแอลกอฮอล์อาจจะทำให้ร่างกายเราต่อต้านฮอร์โมนอินซูลินได้ และงานวิจัยส่วนใหญ่ยังพบอีกว่า คนที่ดื่มแอลกอฮอล์จะมีน้ำหนักเกินและไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ไขมันในช่องท้อง ไม่เพียงแค่ให้เรามีพุงและหมดความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคไขมันพอกตับ (Fatty Liver) โรคหัวใจ โรคความดันโหลิตสูง และระดับน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วย

ทริคเสริมสร้างกล้ามเนื้อสำหรับผู้ที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย

ขอแนะนำเป็นตัว BAAM BURN V3 เวย์ลดน้ำหนักที่จะทำให้การเบิร์นไขมันของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล้ามเนื้อเฟิร์ม เพื่อลายที่คมชัด และเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ 7 วันแรกที่รับประทาน


ติดต่อเรา
Facebook Inbox:https://www.facebook.com/fitwhey
LINE : @FITWHEY
Email:contactus@fitwhey.com