สร้างกล้ามเนื้อ ด้วย เวย์โปรตีน

   ถ้าเป้าหมายของคุณ คือการสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความแข็งแรง หรือขนาดของกล้ามเนื้อ นอกจากการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังมีเรื่องของสารอาหารที่คุณขาดไม่ได้เลย ก็คือ โปรตีน เพราะโปรตีนเป็นวัตถุดิบในการสร้างกล้ามเนื้อโดยตรง (เหมือนการสร้างบ้านอิฐ ก็ต้องใช้อิฐที่เพียงพอ) แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับพลังงานโดยรวม และสารอาหารอื่นๆ อย่าง แป้ง ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ ให้เพียงพอด้วย


เวย์โปรตีนคืออะไร ?
เวย์โปรตีนมีกี่ประเภท ?
ต้องกินโปรตีนเท่าไหร่ถึงสร้างกล้ามได้

   ความจริงไม่มีจำนวนที่ตายตัว แต่ละคนมีปัจจัยที่ต่างกันไป ทั้งเพศ อายุ สุขภาพ มวลกล้ามเนื้อ การพักผ่อน การใช้ร่างกาย และอีกมากมายที่มีผลต่อปริมาณโปรตีนที่ต้องการต่อวัน แต่ส่วนใหญ่ ถ้าอยู่ในช่วงซ้อมกีฬา หรือ ช่วงเพิ่มกล้ามเนื้อ จะแนะนำที่ประมาณ 1.5 - 2 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ขึ้นไป ก็เพียงพอต่อการสร้างกล้ามเนื้อ แต่พลังงานโดยรวมก็ต้องเพียงพอด้วย ไม่ใช่ว่ากินโปรตีน อย่างเดียว แล้วไม่กินอย่างอื่นเลย พลังงานที่ได้จะน้อยไป ร่างกายก็จะไม่สามารถเข้าสู่สภาวะการสร้างกล้ามเนื้อได้เต็มที่ การเลือกแหล่งโปรตีนนั้น เราสามารถเลือกรับจากอะไรก็ได้ ไม่ว่าจากไข่ เนื้อสัตว์ โปรตีนจากพืช หรือ เวย์โปรตีน โปรตีนทุกแหล่งสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้หมด ที่สำคัญคือ ปริมาณโปรตีนต่อวันต้องเพียงพอ และควรจะได้รับโปรตีนจากแหล่งที่หลากหลาย

 

   ถ้าต้องการกินโปรตีนสูงกว่านี้ เช่น 3 - 4 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมขึ้นไป (High protein diet) แนะนำให้เข้ารับการตรวจสุขภาพร่างกาย ให้แน่ใจว่าสุขภาพปกติ ก่อนเริ่มกินโปรตีนที่สูงมากๆ


วิธีการใช้เวย์โปรตีนเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อ

   การจะเสริมเวย์โปรตีนเพื่อสร้างกล้ามเนื้่อนั้น สามารถเลือกใช้เวย์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เวย์โปรตีนคอนเซน เทรต (Whey protein concentrate), เวย์โปรตีนไอโซเลท (Whey protein Isolate), เวย์โปรตีนไฮโดรไลเซท (Whey protein Hydrolysate) หรือ เวย์โปรตีนเบล็น (Whey protein blend ที่ผสมเวย์หลายประเภทเข้าด้วยกัน) ก่อนอื่นต้องเข้าใจจุดเด่นของเวย์โปรตีนก่อน เพื่อนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม ข้อดี ข้อเด่น ของเวย์นั้น มีดังนี้

 
  1. ความสะดวก
    จุดเด่นที่สุดของเวย์คือความง่ายในการกิน และ การพกพา คุณสามารถตักผงใส่แก้วเชคแล้วนำใส่กระเป๋ากับคุณไปได้ทุกที่ เมื่อต้องการโปรตีน ก็แค่เติมน้ำ เขย่า และ ดื่มได้ทันที หรือ ในชั่วโมงที่เร่งรีบ อย่างตอนเช้าที่ตื่นสาย ก็ดื่มเวย์ (1.5 - 2 ช้อน) บวกด้วยขนมปังซัก 2-3 แผ่น ก็เป็นมื้อเช้า เบาๆ ที่ได้สารอาหารและพลังงานเพียงพอเป็น 1 มื้อได้เลย
  2. ความบริสุทธิ์ของโปรตีน
    แหล่งโปรตีนอื่นๆ อย่างเนื้อสัตว์ หรือ พืช(ถั่ว) ต่างๆ นอกจากให้โปรตีนแล้ว ยังมีสารอาหารอื่นๆ อย่างไขมัน รวมอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า ถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม ก็ไม่มีอันตราย แต่ถ้าเราเป็นคนที่ต้องการโปรตีนสูงๆ ก็จะทำให้เราได้รับไขมัน และพลังงานที่มากเกินความต้องการ หรือบางเวลาที่เราต้องการแต่ โปรตีนเพียวๆ เวย์โปรตีน ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
  3. ความไวในการดูดซึม
    ในบางช่วงเวลา เราอาจจะต้องการโปรตีนที่ย่อยง่าย ดูดซึมไว และสบายท้อง อย่างตอนเช้าๆ หรือ หลังออกกำลังกายเสร็จใหม่ การไปนั่งกินเนื้อสัตว์ หรือ โปรตีนจากแหล่งอื่นๆ ในปริมาณก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ หรือ บางคนที่อาจจะมีปัญหาการย่อย แล้วทานเนื้อสัตว์ได้น้อย การเลือกเวย์โปรตีน ก็ช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่เพียงพอ โดยกระเพาะอาหารไม่ต้องรับภาระที่มากจนเกินไปอีกด้วย
  4. ปริมาณที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้
    เวย์โปรตีน เป็น โปรตีนกลุ่มที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ดีที่สุด ถ้าเราลองเทียบจากค่าง่ายๆ ที่เรารู้จักกันอย่างค่า BV (Biological Value)[1] อกไก่มีคะแนนอยู่ที่ 79, ไข่ไก่ ได้คะแนน 100 ส่วน เวย์โปรตีน มีคะแนนอยู่ที่ 104 หรือ ค่าที่เจาะจงขึ้นมาหน่อย อย่างค่า DIAAS (Digestible Indispensable Amino Acid Scores)[2] อกไก่มีคะแนนอยู่ที่ 1 (1.08), ไข่ไก่ ได้ 1 (1.13) และ เวย์โปรตีน ได้ 1 (1.07) คะแนน จะเห็นว่า เวย์โปรตีน นั้น อยู่ในกลุ่มโปรตีนที่มีคุณภาพสูงที่สุด ไม่ต่างจาก ไก่ และไข่เลย
  5. ราคา
    หลายคนอาจจะคิดว่าเวย์นั้นแพง แต่ความจริงนั้นเวย์นั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ถูกมาก โดยเวย์ 1 ช้อน ให้โปรตีน ประมาณ 25 กรัม ตกประมาณ 20 - 22 บาท เท่านั้น ถ้าเทียบกับอาหารสำเร็จอื่นๆ ก็แทบจะหาอะไรมาสู้ยาก ลองคิดภาพเล่นๆว่า เราจะสามารถซื้ออาหารตามร้านที่ไหน ที่ได้เนื้อสัตว์ประมาณ 1 ขีดกว่าๆ โดยที่ปราศจากไขมันแย่ ได้ในราคา 25 บาทบ้าง หรือเราไปซื้อไข่ในร้านสะดวกซื้อ ไข่ต้ม 2 ฟอง ราคาประมาณ 15 บาท ได้โปรตีน รวมประมาณ 12 กรัม ก็ต้องจ่ายถึง 30 บาท เพื่อให้ได้ใกล้เคียงกับเวย์ 1 ช้อน
 

   (จะเทียบกับอาหารดิบ อย่างอกไก่ดิบ หรือ ไข่ไก่ดิบ ไม่ได้เพราะ เวย์ เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่ผ่านกรรมวิธีต่างๆมาแล้ว จึงเทียบกับอาหารพร้อมทาน หรือ อาหารสำเร็จรูป จะสมเหตุสมผลมากกว่า)


เวลาที่แนะนำในการทานเวย์โปรตีน

    สามารถดื่มได้ทุกเวลา โดยให้ความสำคัญกับโปรตีนรวมในแต่ละวันเป็นอันดับแรก และ ควรกระจายการทานโปรตีน(จากทุกแหล่ง) ไปในแต่ละมื้อ ตลอดทั้งวันด้วย ช่วงเวลาที่แนะนำจะเป็นช่วงที่ร่างกายขาดอาหารเป็นเวลานานๆ หรือ ช่วงที่ร่างกายใช้พลังงานไปเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น หลังออกกำลังกาย และ ช่วงตื่นนอนทันที เป็นต้น เพราะทั้ง 2 ช่วงเวลาเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการสารอาหารทดแทนอย่างรวดเร็ว ถ้าช่วงหลังออกกำลังกาย อาจจะทาน เวย์โปรตีน + กล้วย เพื่อทดแทนสารอาหารที่ใช้ไป และเร่งการฟื้นฟูของร่างกายให้ดีขึ้น


ปริมาณน้ำ และ ปริมาณเวย์โปรตีน ต่อครั้ง

   ปริมาณน้ำสามารถเลือกได้ตามชอบ ชอบหวานมาก เข้มข้น = น้ำน้อยๆ หรือ ถ้าชอบหวานน้อย = ใส่น้ำเยอะขึ้น ปริมาณน้ำไม่ส่งผลต่อสารอาหาร การดูดซึม หรือ สรรพคุณของเวย์โปรตีน มีผลแค่เรื่องของรสชาติเท่านั้น แต่ถ้าเราเลือกผสมนม ก็จะทำให้ได้สารอาหาร และพลังงานเพิ่ม แต่การดูดซึม อาจจะช้าลงได้

 

    ปริมาณเวย์โปรตีนต่อครั้ง คนทั่วไป แนะนำที่ประมาณ 1 - 1.5 ช้อน ก็เพียงพอ ถ้าต้องการโปรตีนจากเวย์มากกว่านี้ แนะนำกระจายออกเป็นมื้อย่อยๆ จะดีกว่าการกินในครั้งเดียว


สรุปสั้นๆ

    การจะกินเวย์โปรตีนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ต้องให้ความสำคัญกับพลังงานที่ได้รับต่อวัน และ ปริมาณโปรตีนรวมที่ได้รับต่อวัน ให้เพียงพอเป็นอันดับแรก แล้วค่อยมาให้ความสำคัญจากแหล่งโปรตีนที่หลากหลาย ถ้าพลังงานถึง โปรตีนถึง ทำร่วมกับการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ถูกต้อง และการพักผ่อนที่เพียงพอ เราก็จะสามารถพัฒนากล้ามเนื้อ ให้มีขนาด และความแข็งแรงเพิ่่มขึ้นได้ตามที่ตั้งใจไว้

 

   [1] ค่า Biological Value (BV) คือ ค่าพื้นฐานเพื่อบอกคุณภาพของโปรตีน โดยเทียบระหว่าง โปรตีนที่ได้รับ กับ ที่ร่างกายนำไปใช้ได้

 

   [2] ค่า Digestible Indispensable Amino Acid Scores (DIASS) คือ ค่าที่ใช้บอกคุณภาพของโปรตีนที่แม่นยำขึ้น และเป็นค่าหลักที่ใช้บอกคุณภาพโปรตีนในปัจจุบัน ที่คิดจากการดูซึมกรดอะมิโนต่างๆในลำไส้เล็ก เทียบ ปริมาณกรดอะมืโนืที่ดูดซึมได้ กับ กรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ